นายกรัฐมนตรี กำชับทุกหน่วยงานให้ความสำคัญการรักษาความมั่นคงทางไซเบอร์ แนวโน้มมูลค่าความเสียหายมีมากขึ้น

 

นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับทุกส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐให้ความสำคัญกับการมีมาตรการรักษาความมั่นคงทางไซเบอร์ โดยเฉพาะหน่วยงานที่เก็บรักษาฐานข้อมูลที่สำคัญของประชาชน เนื่องจากแนวโน้มของเหตุการณ์และมูลค่าความเสียหายที่มาจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่สูงขึ้นตามจำนวนผู้ใช้และเข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตและดิจิทัล

หลังสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ ได้รายงานการดำเนินงานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ที่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญในช่วงครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ 2565 (ต.ค.64-มี.ค.65) พบว่ามีเหตุการณ์ภัยคุกคามทางไซเบอร์ต่อฐานข้อมูลหน่วยงานของรัฐ 144 ครั้ง แยกประเภทภัยคุกคามที่พบมากที่สุด ได้แก่ Hacked Website ซึ่งเป็นลักษณะของการพนันออนไลน์ การปลอมแปลงหน้าเว็บไซต์จริงเพื่อหลอกเอาข้อมูล การโจมตีเว็บไซต์เพื่อเปลี่ยนแปลงข้อมูลเผยแพร่หน้าเว็บไซต์ 52 ครั้ง ข้อมูลรั่วไหล 26 ครั้ง จุดอ่อนช่องโหว่ 23 ครั้ง มัลแวร์เรียกค่าไถ่ 11 ครั้ง และอื่นๆ 32 ครั้ง

โดยประเภทของหน่วยงานที่ถูกโจมตีด้วยภัยคุกคามทางไซเบอร์มากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ หน่วยงานด้านการศึกษา หน่วยงานด้านสาธารณสุข หน่วยงานของรัฐที่ไม่ใช่หน่วยงานโครงสร้างพื้นฐานสำคัญทางสารสนเทศ หน่วยงานด้านพลังงานและสาธารณูปโภค และผู้ประกอบกิจการให้เช่าพื้นที่เว็บไซต์หรือที่เป็นดาต้าเซ็นเตอร์

นายกรัฐมนตรี ให้ทุกหน่วยงานเพิ่มความเข้มข้นในการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ โดยประสานงานรับคำปรึกษาจากศูนย์ประสานรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์แห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ เพื่อให้มีแนวทางในการป้องกันที่สอดคล้องกับมาตรฐาน หรือแนวทางปฏิบัติสากล ทั้งการเตรียมการและป้องกันการเกิดภัยคุกคาม การตรวจจับและวิเคราะห์ภัยคุกคาม การระงับและปราบปรามภัยคุกคามและการฟื้นฟูระบบงาน


Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar