องค์การเภสัชกรรม วิจัยพัฒนายาเม็ดเลิกบุหรี่ ลดเวลารักษา ช่วยชาติประหยัดงบประมาณ

 

พญ.มิ่งขวัญ สุพรรณพงศ์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวเนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก 31 พฤษภาคม 2566 ว่า ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2564 พบคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป สูบบุหรี่ถึง 9.9 ล้านคน และเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ ด้วยโรคต่างๆ เช่น มะเร็งปอด มะเร็งหลอดอาหาร ถุงลมโป่งพองและโรคหัวใจ

สำหรับการเลิกบุหรี่ในประเทศไทย มียา 5 รายการ ที่ใช้ ได้แก่ ยาเม็ด Varenicline ยาเม็ด Bupropion , นิโคตินทดแทน ยาเม็ด nortriptyline และยาชงสมุนไพรหญ้าดอกขาว โดยปัจจุบันมีเพียงยา 2 รายการ ที่บรรจุอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ ได้แก่ ยาเม็ด nortriptyline และยาชงสมุนไพรหญ้าดอกขาว ดังนั้นเพื่อเป็นการช่วยผู้ที่ติดบุหรี่ให้เข้าถึงยาเลิกสูบบุหรี่ที่มีประสิทธิภาพและช่วยลดการเกิดโรค องค์การเภสัชกรรม ได้วิจัยและพัฒนายาเลิกสูบบุหรี่ชนิดใหม่คือ ยาเม็ด ไซทิซิน จีพีโอ ขนาด 1.5 มิลลิกรัม ได้เป็นรายแรกในประเทศไทย เป็นยาเม็ดที่เกิดจากความร่วมมือขององค์การเภสัชกรรม กับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ศึกษาวิจัยทางคลินิกในมนุษย์ ได้ผลการวิจัยมีความปลอดภัยและมีประสิทธิผลดี ขณะนี้อยู่ระหว่างการขออนุมัติทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ประเภทยาควบคุมพิเศษ ที่จำหน่ายได้ในสถานพยาบาลเท่านั้น หากเปลี่ยนมาใช้ยาเม็ดไซทิซิน จีพีโอ ในการรักษาแทนการรักษาในปัจจุบันที่ใช้ยาเม็ด Varenicline จะทำให้ประหยัดงบประมาณค่ายาต่อคอร์สและลดระยะเวลาในการรักษาได้ 3-4 เท่า รวมทั้งลดการนำเข้ายาจากต่างประเทศได้ประมาณ 12 ล้านบาทต่อปี โดยองค์การเภสัชกรรม จะเริ่มผลิตจำหน่ายยาในเดือนมกราคม 2567 การมียาเลิกบุหรี่คุณภาพดีและราคาถูก ผลิตได้เองนี้นับเป็นก้าวสำคัญของการเลิกบุหรี่ในประเทศไทยที่จะช่วยให้คนไทยมีสุขภาพที่ดีขึ้นต่อไป


Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar