นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้รับรายงานสถานการณ์โรคสำคัญที่กำลังมีการระบาดในขณะนี้ 2 โรคคือ โรคไข้หวัดใหญ่ มีอุบัติการณ์เพิ่มขึ้น โดยข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 9 กันยายน 2566 มีผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ 154,829 ราย เสียชีวิต 3 ราย
ทั้งนี้ หลังจากมีประกาศให้โรคโควิด-19 เป็นโรคที่ต้องเฝ้าระวัง ประชาชนผ่อนคลายเรื่องการสวมหน้ากากอนามัยลง พบว่าอัตราการติดเชื้อโรคระบบทางเดินหายใจเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะไข้หวัดใหญ่ที่มีผู้ป่วยมากกว่าปีที่ผ่านมาถึง 3 เท่า กระทรวงสาธารณสุขได้รณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ในผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่ม โรคอ้วน หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป พร้อมกำหนดมาตรการและประสานความร่วมมือในการป้องกันควบคุมโรค โดยมีหนังสือถึงนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และปลัดกระทรวงศึกษาธิการ แจ้งแนวทางและขอความร่วมมือในการเตรียมความพร้อม เฝ้าระวัง ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ ทั้งในโรงเรียน สถานศึกษา เรือนจำ ทัณฑสถาน สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ค่ายทหาร
ส่วนโรคไข้เลือดออก ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 13 กันยายน 2566 มีผู้ป่วย 91,979 ราย เสียชีวิต 93 ราย ประเด็นสำคัญคือ พบอัตราป่วยสูงในเด็กอายุ 5-14 ปี และกลุ่มอายุ 15-24 ปี แต่อัตราป่วยตายกลับสูงในผู้ใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 55-64 ปี รองลงมาคือ กลุ่มอายุ 25-34 ปี ภาพรวมสรุปได้ว่าผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป ที่เป็นไข้เลือดออกจะมีความเสี่ยงเสียชีวิตมากกว่าเด็ก 2-3 เท่า เนื่องจากส่วนใหญ่เมื่อป่วยมักไปพบแพทย์และได้รับการรักษาช้าเกินไป หากมีไข้ รับประทานยา 2 วันแล้วไม่ดีขึ้น ขอให้รีบไปพบแพทย์ ที่สำคัญ ห้ามซื้อยาชุด ไอบูโพรเฟน แอสไพริน หรือยากลุ่มเอ็นเสด มารับประทานเด็ดขาด