นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์) มีการแถลงถึงตัวเลข GDP ในไตรมาส 3 ประมาณร้อยละ 1.5 ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ถือเป็นเรื่องที่น่ากังวลเป็นอย่างมาก โดยเหตุผลที่ตัวเลขไม่เป็นไปตามเป้า มีอุปสรรคหลายอย่าง ทั้งเรื่องของการลงทุนและโรงงานที่ผลิต ส่วนจะส่งผลถึงไตรมาสหน้าหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกอย่างส่งผลหมดและขออย่าพึ่งคิดล่วงหน้าไปจนถึงไตรมาสหน้า เนื่องจากไตรมาสที่ 4 นี้ยังเหลืออีกครึ่งไตรมาส จึงต้องพยายามทำให้ตัวเลขดีขึ้น

ส่วนในเรื่องของโครงการดิจิทัล นายกรัฐมนตรี ให้ความเห็นว่า เรื่องนี้มีการพูดไปมากแล้วและได้รับทราบถึงขั้นตอน รวมถึงตัวเลขที่ชัดเจน พร้อมยืนยันว่าเป็นสิ่งจำเป็นและหลังจากนี้ก็ให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องดำเนินการอยู่

อย่างไรก็ตาม ในการประชุมวันนี้ (20 พ.ย.66) ที่กระทรวงการคลัง นายกรัฐมนตรี ระบุว่า มีวาระหลายเรื่อง โดยเฉพาะประเด็นที่เคยแถลงไปแล้วว่าปลายเดือนนี้จะมีการแถลงข่าวเรื่องแก้ปัญหาหนี้สิน ซึ่งวันนี้จะต้องมาปรึกษาว่ามีกลุ่มไหนบ้างที่ขาดการดูแลและจะไม่มีการหารือเรื่องแหล่งที่มาของเงินในโครงการเงินดิจิทัล เนื่องจากมีการพูดไปชัดเจนแล้ว

ส่วนเรื่องการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ได้มีการมอบหมายนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ไปแล้ว โดยขณะนี้กำลังพิจารณาอยู่ว่าจะมีการแถลงข่าวพร้อมกันกับประเด็นการบริหารหนี้ทั้งหมดหรือจะแยกรายละเอียดกัน