นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึงแนวทางการจัดเก็บภาษีประจำปีรถยนต์รับจ้าง หรือแท็กซี่ รถยนต์รับจ้างสามล้อ และรถจักรยานยนต์สาธารณะ หลังจากคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกา ปรับลดภาษีรถประจำปีร้อยละ 90 จากอัตราที่กำหนดท้ายพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 ว่า หลังจากกฎหมายมีผลบังคับใช้ จะส่งผลให้กรมการขนส่งทางบก จัดเก็บอัตราภาษีประจำปีรถรับจ้างสาธารณะที่ครบกำหนดเสียภาษีประจำปี ลดภาษีลงร้อยละ 90

โดยรถแท็กซี่ ที่มีน้ำหนักรถ 1,300 กก. เดิมจัดเก็บภาษี 685 บาท ลดเหลือ 68.50 บาทต่อคัน รถแท็กซี่ ที่มีน้ำหนักรถ 2,100 กก. เดิมจัดเก็บภาษี 1,250 บาทต่อคัน ลดเหลือ 125 บาท รถยนต์สามล้อรับจ้าง เดิมจัดเก็บภาษี 185 บาทต่อคัน ลดเหลือ 18.5 บาทต่อคัน รถจักรยานยนต์รับจ้าง เดิมจัดเก็บภาษี 100 บาทต่อคัน ลดเหลือ 10 บาทต่อคัน ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการช่วยเหลือเยียวยาและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับกลุ่มผู้ประกอบอาชีพให้บริการรถสาธารณะ ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ตั้งแต่ ปี 2563 ประกอบกับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติพุ่งสูงขึ้น จนกระทบต่อรายได้ผู้ประกอบอาชีพดังกล่าวไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมารัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคม ได้ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะ ทั้งมอบเงินช่วยเหลือกลุ่มอาชีพผู้ขับรถแท็กซี่และรถจักรยานยนต์สาธารณะ ที่มีอายุเกิน 65 ปี ที่ไม่สามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และประกอบอาชีพขับรถอยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด การขยายอายุรถแท็กซี่จาก 9 ปี เป็น 12 ปี การอนุญาตให้ใช้เทคโนโลยีทางเลือกอื่นแทนเครื่องบันทึกการเดินทาง หรือ GPS ในรถแท็กซี่ พร้อมทั้งมีมาตรการเพิ่มรายได้ โดยให้ติดตั้งสื่อโฆษณาบนรถแท็กซี่และกำหนดให้เรียกเก็บค่าสัมภาระได้ กรณีการให้บริการจากท่าอากาศยานดอนเมืองและท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นต้น