นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  พร้อม นายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ เลขาธิการ สคบ. แถลงข่าว ผลการจับกุมบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ สคบ. ได้รับการรายงาน ว่า ด้านหลังมหาวิทยาลัยชื่อดัง ย่านถนนรัชดาภิเษก มีการเปิดร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า ที่มีการเปิดร้านขายสินค้าอื่นบังหน้า  จากการลงพื้นที่ 3 จุด จำนวน 5 ร้านค้า  จุดที่ 1 บริเวณซอยรัชดาภิเษก 36 ซอยเสือใหญ่ เขตจตุจักร พบร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า  3 ร้าน , จุดที่ 2 ซอยลาดพร้าว 122 ซอยมหาดไทย เขตวังทองกลาง พบร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า 1 ร้าน และ จุดที่ 3 ซอยรามคำแหง 65 ถนนศรีวรา เขตวังทองหลาง พบร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า 1 ร้าน ได้ของกลางรวม 20 กระสอบ  กว่า 12,000 ชิ้น  คิดเป็นเงินกว่า 3.6 ล้านบาท  ของกลางเป็นบุหรี่ไฟฟ้า รูปแบบต่างๆ รวมถึงเป็นแบบตุ๊กตาที่กำลังระบาดในกลุ่มของเด็กนักเรียนด้วย  การดำเนินคดีกับเจ้าของร้านต้องขยายผล เพราะระหว่างการจับกุม จับได้แต่ผู้ว่าจ้าง และเป็นต่างด้าว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ก็ดำเนินคดีในฐานะตัวการทำผิดกฎหมายเช่นกัน

ด้านนางพวงเพ็ชร กล่าวว่า การปฏิบัติการดังกล่าว เป็นข้อสั่งการของ นายกฯ ว่า มีความเป็นห่วงเยาวชนกับบุหรี่ไฟฟ้า เพราะในบุหรี่ไฟฟ้ามีสารนิโคตินที่ทำลายพัฒนาการการเจริญเติมโตของเด็กช้าไปด้วย ทำลายสมอง ทำลายการเรียนรู้ ผลเสียต่ออารมณ์ มีการตั้งชุดเฉพาะกิจในการปราบปรามร้านขายบุหรี่ไฟฟ้ามาดำเนินการโดยเฉพาะ เพราะที่ผ่านมาจับกุมปราบปรามร้านค้าได้น้อยเพราะมีข่าวรั่วของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เอง เช่นเดียวกับข้อกฎหมาย จะมีการหารือกับฝ่ายกฎหมายเพื่อเพิ่มโทษให้หนักขึ้น  ที่ผ่านมากฎหมายเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าถือว่าเบา ทำให้ร้านค้าที่ถูกจับไปแล้วกลับมาเปิดร้านอีก เพราะไม่เกรงกลัวกฎหมาย

ด้าน นายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ เลขาธิการ สคบ. ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าต้องห้ามทั้งการนำเข้า จำหน่ายหรือให้บริการ มีความผิด 3 ข้อหา  ประกอบด้วยความผิด ของ สคบ.  เรื่อง ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า “บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า” ผู้ใดขายหรือให้บริการ มีความผิด โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ความผิดตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่ และบารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ ไฟฟ้า เป็นสินค้าที่ต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2557 มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับเป็นเงิน 5 เท่าของราคาสินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ และ มีความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 244 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ