นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. เพื่อพิจารณาผ่อนคลายมาตรการ หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดภายในประเทศมีแนวโน้มทรงตัว ถึงแม้จะพบกลุ่มจังหวัดนำร่องติดเชื้อสูง แต่เมื่อเทียบกับอัตราการเสียชีวิตในกลุ่มผู้ป่วยลดลง

นอกจากนี้ จะมีการหารือผ่อนคลายมาตรการบางพื้นที่ บางกิจการ/กิจกรรม และมาตรการเข้าออกประเทศ Test & Go ของนักท่องเที่ยวอีกด้วย อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงคลัสเตอร์หลังปีใหม่ โดยเฉพาะร้านอาหาร สถานบันเทิง ที่กรมสอบสวนโรคลงพื้นที่ตรวจสอบสถานบันเทิงแล้วพบไม่ผ่านการประเมิน หรือเปิดเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด จนทำให้พบกลุ่มคลัสเตอร์ผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนจำนวนมาก ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นข้อมูลนำเข้าที่ประชุม ศบค. เพื่อประกอบการพิจารณา

พร้อมกันนี้ ขอย้ำนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการสถานบันเทิงต่างๆ ปฏิบัติตามมาตรการกำหนดไว้ หากอยากให้การท่องเที่ยวกลับมา ทุกคนต้องร่วมมือ ร่วมใจกัน หากมีการกระทำที่ผิดกฎหมายเจ้าหน้าที่ต้องเข้าไปจับกุมและดำเนินการอยู่แล้ว และยืนยันรัฐบาลพยายามหามาตรการทางออกที่ดีที่สุด ขอให้ทุกคนอดทน เพราะทุกมาตรการที่ออกมาเพื่อความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ล่าสุด กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยความคืบหน้าวัคซีนไฟเซอร์สำหรับฉีดเด็กอายุ 5-11 ปี จะมาถึงไทยในวันที่ 26 มกราคมนี้ จำนวน 3 ล้านโดส จาก 10 ล้านโดส ที่สั่งจองไว้ในเบื้องต้น และเริ่มฉีด 31 มกราคม 2565 ที่โรงพยาบาลเด็กก่อนเป็นแห่งแรก

ที่มา  https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220120093218222